PULSE VOL.5 (July 2024)

ผลสะท้อนจากงานสร้างสรรค์แบบฝึกหัดและบทประพันธ์สำหรับการบรรเลงเครื่องกระทบสี่ไม้ของนาดีส บุญรอด

Reflection Of Nadis Boonrod’s Exercise And Etude For Four Mallets

- Nadis Boonrod

บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสะท้อนผลงานสร้างสรรค์แบบฝึกหัดและบทประพันธ์การบรรเลงสี่ไม้ของนาดีส บุญรอด แบบฝึกหัดประกอบด้วย การปฏิบัติแบบแยกไม้อิสระ การปฏิบัติแบบสลับไม้และสลับมือ การปฏิบัติแบบลงไม้พร้อมกัน และการปฏิบัติแบบลงไม้สองครั้งบนมือข้างเดียว รวมถึงบทประพันธ์ที่สอดคล้องกับหัวข้อการปฏิบัติดังกล่าวได้แก่ บทประพันธ์ Walk, Split, Groovy และ Bubble โดยมีวิธีการศึกษาสองขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1) สำรวจการนำไปใช้ของผลงานทั้งทางแบบฝึกหัดและบทประพันธ์สร้างสรรค์ และ 2) สอบถามผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย และนักดนตรีเครื่องกระทบมืออาชีพ จากการศึกษาพบว่า แบบฝึกหัดและบทประพันธ์ที่ถูกออกแบบขึ้นในแต่ละหัวข้อการปฏิบัติ มีลำดับขั้นตอนการฝึกที่ชัดเจน ครอบคลุมในแต่ละหัวข้อการปฏิบัติและสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของแบบประกอบการเรียนได้

คำสำคัญ: แบบฝึกหัด, การบรรเลงเครื่องกระทบสี่ไม้, นาดีส บุญรอด

Abstract 

The focal point of this article is the composition of exercises and etudes for four mallets by Nadis Boonrod. These exercises encompass various techniques, including single independent strokes, single alternating strokes, double vertical strokes, and double lateral strokes. Each of these techniques corresponds to a specific composition, namely Walk, Split, Groovy, and Bubble, respectively. This study employed two methods, namely survey research exploitation and interviewing advanced-level university instructors and renowned percussionists, to examine the exercises. The examination result found that the exercises and etudes were designed comprehensively for each practical topic and could be used effectively in teaching methods.

Keywords: Exercise and Etudes, Four mallets playing, Nadis Boonrod

บทนำ

จากการจัดกิจกรรม เสวนา เรื่อง “วิชาชีพนักเพอร์คัชชัน: โอกาสและอนาคตของการเรียนรู้” เป็นการเรียนรู้และบรรเลงบรรเลงเครื่องกระทบสี่ไม้ร่วมกับวิทยากรรับเชิญ ประกอบด้วย ผศ. ดร.เผ่าพันธ์ อำนาจธรรม จากมหาวิทยาศิลปากร อาจารย์เกษม ทิพยเมธา-กุล จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอาจารย์ธนสิทธิ์ ศิริพาณิชวัฒนา จากสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา พบว่าเส้นทางแห่งการเรียนรู้วิชาดนตรี ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงการศึกษาในห้องเรียน แต่การเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับข้องกับดนตรี ยังเป็นหนึ่งในแนวทางที่สร้างการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจากศิลปิน วิทยากรรับเชิญ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวน 2 กลุ่ม ประกอบด้วย ผู้เข้าร่วมสาธิตอบรมเชิงปฏิบัติการ และผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความตระหนักในการมองหาเส้นทางของตนเอง ทั้งมุมมองด้านดนตรี ด้านการดำรงชีวิต  ของนักเรียน นักศึกษาดนตรีในกลุ่มเครื่องกระทบ ด้วยการตั้งคำถาม และนำไปสู่กระบวนการทดลองปฏิบัติทั้งสิ่งที่ถูกและผิด ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ เพื่อค้นหาคำตอบ และนำไปสู่การสร้างแนวทางอาชีพของตนเองในอนาคต

นอกจากกิจกรรมการเสวนา ผู้เขียนยังจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติเครื่องกระทบประเภทคีย์บอร์ด รวมไปถึงประสบการณ์เกี่ยวกับการแสดงดนตรีของผู้เขียน ถ่ายทอดผ่านการอบรม โดยบทเพลงที่นำมาใช้เข้าร่วมอบรมเป็นบทประพันธ์ที่มีความสอดคล้องกับการบรรเลงสี่ไม้ และเหมาะสมกับนักดนตรีเครื่องกระทบที่มีทักษะการบรรเลงระดับกลางขึ้นไป ประกอบด้วย บทเพลง Rhythmic Caprice, Marimba D’Amore, Libertango และ Rhythm Dance จากการอบรมพบว่า นักเรียน นักศึกษาที่เป็นผู้เข้าร่วมอบรม สามารถประยุกต์แบบฝึกหัดในแต่ละรูปแบบการปฏิบัติเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในการบรรเลงบนเครื่องกระทบประเภทคีย์บอร์ดได้ โดยผู้เข้าร่วมอบรมมีความเข้าใจและสามารถลงมือฝึกปฏิบัติและแก้ไขข้อบกพร่องได้ตรงตามเทคนิคการบรรเลงตามแนวทางของแบบฝึกหัดและรูปแบบการบรรเลง

ทั้งนี้ ในมุมมองของผู้ออกแบบกิจกรรม พบว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่เป็นเพียงการเปิดมุมมองจากวิทยากรไปสู่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพียงเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนให้ผู้เขียนเรียนรู้กระบวนการในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรม ซึ่งส่งผลให้เกิดทักษะการวางแผน ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับนักดนตรีในยุคปัจจุบัน

นอกจากด้านกิจกรรม ผู้เขียนยังได้สร้างแบบฝึกหัด ที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการบรรเลงสี่ไม้ อันประกอบด้วย

  1. การปฏิบัติแบบแยกไม้อิสระ (Single Independent Strokes)
  2. การปฏิบัติแบบสลับไม้และสลับมือ (Single Alternating Strokes)
  3. การปฏิบัติแบบลงไม้พร้อมกัน (Double Vertical Strokes)
  4. การปฏิบัติแบบลงไม้สองครั้งบนมือข้างเดียว (Double Lateral Strokes)

จากเทคนิคการบรรเลงสี่ไม้ดังกล่าว จัดอยู่ในแบบฝึกหัดประกอบคำบรรยาย โดยมีลำดับของเนื้อหาเป็นประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ สิ่งที่ได้จากแบบฝึกหัด วิธีการปฏิบัติ ความเร็วที่ควรซ้อม ความเร็วที่ใช้งานได้จริง ระยะเวลาในการฝึกซ้อม และข้อควรระวัง

ทั้งนี้นอกจากแบบฝึกหัดที่ถูกออกแบบขึ้น ผู้เขียนได้สร้างบทประพันธ์ที่พัฒนาทักษะการบรรเลง เพื่อพัฒนาต่อยอดทักษะการบรรเลงสี่ไม้ให้อยู่ในรูปเพลง ซึ่งใช้แนวทางในการประพันธ์มาจากรูปแบบการปฏิบัติทั้ง 4 รูปแบบ ประกอบด้วย

  1. บทประพันธ์ Walk มุ่งเน้นที่การปฏิบัติแบบแยกไม้อิสระ
  2. บทประพันธ์​ Split มุ่งเน้นที่การปฏิบัติแบบสลับไม้และสลับมือ
  3. บทประพันธ์ Groovy มุ่งเน้นที่การปฏิบัติแบบลงไม้พร้อมกัน
  4. บทประพันธ์ Bubble มุ่งเน้นที่การปฏิบัติแบบลงไม้สองครั้งบนมือข้างเดียว

ซึ่งกระบวนการในการออกแบบแบบฝึกหัด และบทประพันธ์ มาจากการศึกษาตัวอย่างจากตำรา Method of Movement for Marimba with 590 Exercises[1] โดย ลีห์ ฮาวเวิร์ด สตีเวนส์ (Leigh Howard Stevens) นักมาริมบา และนักประพันธ์ชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาการจับไม้รูปแบบอิสระ โดยเนื้อหาสาระของตำราเล่มนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) พื้นฐานและรูปแบบการจับไม้ 2) แบบฝึกหัด 3) คู่มือการใช้หนังสือ ตำราเล่มนี้ยังได้แบ่งหมวดหมู่สำหรับการปฏิบัติสี่รูปแบบการปฏิบัติพื้นฐาน โดยการออกแบบแบบฝึกหัดแบบสั้น ๆ ไว้มากถึง 590 แบบฝึกหัด โดยเรียงลำดับตามหมวดหมู่ของหัวข้อการปฏิบัติ ตำราเล่มนี้ให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสรีระขณะบรรเลงมาริมบาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการจับไม้รูปแบบอิสระ นอกจากนั้นยังได้ศึกษาตัวอย่างบทประพันธ์ที่พัฒนามาจากแบบฝึกหัดจากตำรา Marimba: Technique Through Music[2] โดย มาร์ค ฟอร์ด (Mark Ford) นักดนตรีเครื่องกระทบ และนักประพันธ์ชาวอเมริกัน ตำราเล่มนี้เป็นบทประพันธ์ขนาดสั้น เพื่อพัฒนาทักษะเฉพาะของรูปแบบการบรรเลงสี่ไม้ ซึ่งได้รับอิทธิพลในการเขียนมาจากหนังสือ Method of Movement for Marimba

ตารางที่ 1 ตารางแสดงบทประพันธ์และเทคนิคการปฏิบัติการบรรเลงสี่ไม้ในรูปแบบต่าง ๆ

Screenshot 2567-08-21 at 11.40.06

ทั้งนี้ ผู้เขียนได้จัดทำวิดีโอสาธิตผลงานบทประพันธ์ที่สอดคล้องกับเทคนิคการบรรเลงตามแบบฝึกหัด และวิดีโอสาธิตกึ่งบรรยายแนวทางการปฏิบัติรูปแบบการบรรเลงสี่ไม้ ในเว็บไซต์ และสื่อออนไลน์ยูทิวป์ (YouTube[1]) โดยผู้เขียนเล็งเห็นว่าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในปัจจุบัน ที่เป็นรูปแบบเว็บไซต์ สามารถใช้แบ่งปันข้อมูล กระจายชุดความรู้หลายรูปแบบ ได้สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นฐานในการบันทึกข้อมูล ทั้งการออกแบบแบบฝึกหัด บทประพันธ์ วิดีทัศน์สาธิตบทประพันธ์ วิดีโอบรรยายรูปแบบการปฏิบัติ การแสดงดนตรีของผู้เขียน รวมไปถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกระทบ ซึ่งการสร้างสรรค์สื่อการเรียนการสอนบนแพลตฟอร์มดังกล่าว เป็นการสร้างทางเลือกของผู้ที่ต้องการศึกษาในรูปแบบที่ต่างกัน

กรอบแนวคิด

บทความชิ้นนี้มุ่งเน้นการศึกษาในด้านการนำไปใช้ประโยชน์ของผลงานสร้างสรรค์ทั้งแบบฝึกหัดและบทประพันธ์ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น โดยผู้เขียนได้นำเสนอให้เห็นถึงวิธีการนำไปใช้ และข้อเสนอในการพัฒนาแบบฝึกหัดจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและนักดนตรีเครื่องกระทบอาชีพ โดยมีการเผยแพร่แบบฝึกหัดและบทประพันธ์ในรูปแบบสิ่งพิมพ์ วิดีโอสาธิต บนเว็บไซต์ที่ผู้เขียนออกแบบขึ้น

วิธีการศึกษา

  1. ผลการสำรวจการนำไปใช้ของผลงานทั้งทางแบบฝึกหัดและบทประพันธ์สร้างสรรค์

การศึกษาประเด็นดังกล่าวได้มีการสำรวจผ่านสื่อออนไลน์พบว่ามีการเผยแพร่และแบ่งปันการเข้าถึงเว็บไซต์ ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ก (Facebook) โดยเพจ Paopun Concert[2] มีการให้ข้อมูลว่าอาจารย์นาดีส ได้ทำชุดแบบฝึกหัดสำหรับเรียนและฝึกซ้อมหัวข้อ 4 Mallets Technique หรือ กลวิธีการปฏิบัติสี่ไม้ ในเครื่องกระทบ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าจะเล่น 4 ไม้ให้มาเปิดดูเว็ปนี้ครับ อาจารย์อธิบาย ได้ละเอียดเรียบร้อย ทั้งวิดีโอคลิป และแบบฝึกหัดที่พร้อมคำอธิบาย ลองไปเยี่ยมชมได้นะครับ ถือเป็นงานวิชาการที่มีคุณค่าและใช้ได้จริงครับ โดยความคิดเห็นดังกล่าวมีการกดแบ่งปันมากกว่า 100 ครั้ง และนอกจากนั้นได้มีการสอบถามจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย และนักดนตรีเครื่องกระทบมืออาชีพ รวมไปถึงนักเรียน/นักศึกษา ที่ได้ทดลองใช้แบบฝึกหัดดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการซ้อม

 

  1. วิเคราะห์ผลจากการสำรวจ

จากการทำกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ พบว่าเมื่อนักเรียน/นักศึกษาเครื่องกระทบ ได้ทดลองใช้แบบฝึกหัด ผ่านการซ่อมแซมจุดบกพร่องในบทเพลง รวมไปถึงทำความเข้าใจรูปแบบการปฏิบัติพื้นฐาน เมื่อนำความเข้าใจดังกล่าวไปประกอบกับบทเพลงทำให้การบรรเลงราบรื่น เพราะสามารถแบ่งแยกรูปแบบการปฏิบัติแต่ละรูปแบบออกจากกันได้อย่างชัดเจน และสามารถมุ่งเน้นเทคนิคการบรรเลงได้อย่างถูกจุดและเหมาะสมกับรูปประโยคเพลง

  1. ขอความเห็น คำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย และนักดนตรีเครื่องกระทบมืออาชีพ ซึ่งมีรายนามดังนี้

- ผศ. ดร.เผ่าพันธ์ อำนาจธรรม    อาจารย์ประจำ คณะดุริยางค์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

- ผศ. ดร.พนัส ต้องการพานิช อาจารย์ประจำ วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

- ดร.วรรณภา ญาณวุฒิ อาจารย์ประจำ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

- อาจารย์เกษม ทิพยเมธากุล อาจารย์ประจำ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

- อาจารย์อนุสรณ์ ปราบหนองบั่ว อาจารย์พิเศษ วิทยาลัยนาฏศิลป

- อาจารย์ธนสิทธิ์ ศิริพานิชวัฒนา อาจารย์ประจำ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา

- อาจารย์ไกรสิทธิ์ สุวรรณเหล่า อาจารย์ประจำ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

- อาจารย์ศรสวรรค์ หอมวิเศษวงศา อาจารยพิเศษ โครงการห้องเรียนดนตรี โรงเรียนหอวัง

Screenshot 2567-08-21 at 13.32.43
Screenshot 2567-08-21 at 13.33.09
Screenshot 2567-08-21 at 13.33.31

จากตารางที่ 2 ตารางแสดงการปรับใช้เทคนิคการบรรเลงสี่ไม้เบื้องต้น สำหรับนักเรียน นักศึกษาของผู้เชี่ยวชาญ โดยมีข้อเสนอแนะดังนี้

ผศ. ดร.เผ่าพันธ์ อำนาจธรรม ให้ข้อมูลว่า ปกตินักศึกษาที่เริ่มต้นเข้ามาเรียนโดยมากจะมีพื้นฐานการบรรเลงสี่ไม้มาบ้างแล้ว จึงใช้วิธีกำหนดเกณฑ์ของบทประพันธ์หรือบทเพลงที่นักศึกษาจะนำมาใช้เรียนในแต่ละชั้นปี เพื่อให้นักศึกษามีอิสระในการเลือกเรียนบทเพลงที่ตนนั้นสนใจ รวมไปถึงเทคนิคการปฏิบัติที่นักศึกษาต้องการพัฒนา โดยมีการกำหนดตัวอย่างบทเพลง แต่ไม่บังคับ นักศึกษาสามารถเลือกบทเพลงนอกเหนือจากตัวอย่างแต่มีลักษณะการปฏิบัติเทียบเท่ามาใช้เรียนได้ และเมื่อเกิดข้อบกพร่องในการพัฒนา อาจารย์จะออกแบบแบบฝึกหัดที่เป็นลักษณะเฉพาะบุคคลเพื่อแก้ไข้ข้อบกพร่องดังกล่าว เป็นกรณีไป

ผศ. ดร.พนัส ต้องการพานิช ให้ข้อมูลว่า ใช้วิธีการออกแบบการเรียนแบบรายบุคคลตามความพร้อมของนักศึกษา เนื่องจากนักศึกษาโดยรวมมีพื้นฐานค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน แต่มีความสนใจในด้านการสอนดนตรีและการปฏิบัติเครื่องกระทบ จึงต้องเริ่มต้นสร้างพื้นฐานใหม่ตั้งแต่การจับไม้ โดยให้นักศึกษามีอิสระในการเลือกจับสี่ไม้ทั้งรูปแบบอิสระ และแบบไขว้ ตามสรีระและความชอบส่วนบุคคลของนักศึกษาได้ นอกจากนั้นเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเลือกบทเพลงที่สนใจ เพื่อใช้พัฒนาเทคนิคการปฏิบัติ โดยมีตัวอย่างบทเพลงจากห้องสมุดใช้เป็นเกณฑ์การคัดเลือก เมื่อนักศึกษาเลือกบทเพลงได้จำนวนนึงมานำเสนอ อาจารย์จะได้เป็นผู้ให้คำแนะนำถึงความเหมาะสมของบทเพลงที่เลือกมา ว่าเหมาะสมกับจุดประสงค์ที่จำเป็นต่อการพัฒนาของนักศึกษาแต่ละบุคคลหรือไม่

ดร.วรรณภา ญาณวุฒิ ให้ข้อมูลว่า จะเริ่มดูที่พื้นฐานการบรรเลงของนักศึกษารายบุคคลก่อน บางคนถ้ามีพื้นฐานการบรรเลงที่ดีอยู่แล้ว ก็สามารถต่อยอดเทคนิคการบรรเลงอื่น ๆ ตามลำดับได้ แต่หากยังมีพื้นฐานไม่ดีเท่าที่ควร ก็จะมีการปรับพื้นฐานเทคนิคการบรรเลงจาก หนังสือของ Teaching Percussion โดย Gary D. Cook และต่อยอดมายังการเรียนรู้แบบฝึกหัดจาก Funny Mallets โดย Nebojsa Zivkovic และใช้การอ้างอิงชื่อรูปแบบการปฏิบัติต่าง ๆ จากหนังสือของ Leigh Howard Stevens และ Floor Parties โดย Dean Johnson และ Dr. Matthew Jordan นอกจากนั้นนักศึกษาจะได้ฝึกออกแบบแบบฝึกหัดและวอร์มอัพ รูปแบบรายบุคคล ซึ่งแต่ละเทอมก็จะเพิ่มเติมและเปลี่ยนไป ตามบริบทที่กำลังศึกษาอยู่ ณ ขณะนั้น และส่วนสุดท้ายจึงจะเป็นเรื่องการตีความบทเพลง ผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกาย ท่วงทาในการให้ลักษณะเสียงที่แตกต่างกัน

อาจารย์เกษม ทิพยเมธากุล ให้ข้อมูลว่า แบบฝึกหัดจะมี 3 รูปแบบ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกหัดที่พัฒนากล้ามเนื้อ 2) แบบฝึกหัดที่พัฒนาสมอง และ3) แบบฝึกหัดที่พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อและสมอง โดยทั้ง 3 รูปแบบ ล้วนแล้วแต่จำเป็นสำหรับการพัฒนาทักษะด้านดนตรี ซึ่งรูปแบบการสอนของอาจารย์จะเป็นการกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ที่เหมือนกัน เป็นประมวลโครงสร้างรายวิชาระดับชั้นปี กำหนดชัดเจนว่าต้องศึกษาผ่านเรื่องใด เพื่อจะพัฒนาต่อไปยังอีกเรื่อง โดยมีรูปแบบและขั้นตอนลำดับการฝึก อ้างอิงจาก หนังสือ University of Central Florida Mallets Handbook และมีการสอดแทรกแบบประกอบการเรียน จากหนังสือ Method of Movement for Marimba ซึ่งการกำหนดขอบเขตของการฝึกผ่านแบบฝึกหัดที่กำหนดไว้ จะเป็นการกำหนดมาตรฐานที่เหมือนกัน และทำให้นักศึกษาเห็นทิศทางของลำดับการฝึกอย่างเป็นขั้นตอน

อาจารย์ธนสิทธิ์ ศิริพานิชวัฒนา ให้ข้อมูลว่า จะเริ่มจากการดูพื้นฐานของนักศึกษาว่ามีความเข้าใจเครื่องกระทบประมาณไหน และมีประสบการณ์การเล่นเครื่องดนตรีอื่นมาบ้างไหม หากนักศึกษาเคยฝึกเพียงเครื่องดนตรีประเภทเครื่องกระทบ ก็จะให้นักศึกษาเริ่มเรียนจากแบบฝึกหัดที่อาจารย์เป็นผู้ออกแบบ จำนวน 10 เบอร์ และเลือกบทเพลงสำหรับเครื่องกระทบประเภทคีย์บอร์ด จำนวน 3 - 4 บทเพลง มาปรึกษาเพื่อให้เกิดการพัฒนาขึ้นควบคู่กันระหว่างการฝึกซ้อมแบบฝึกหัดกระทั่งการนำไปใช้ในบทเพลง แต่ถ้านักศึกษามีประสบการณ์การเล่นเครื่องดนตรีอื่น ๆ อาทิ เปียโน มาก่อน ก็จะเริ่มจากการคัดเลือกและปรึกษาบทเพลง    ที่จะใช้ในการเรียนก่อน และจึงกลับไปที่การซ้อมแบบฝึกหัดดังกล่าว เนื่องจากในส่วนท้ายของแบบฝึกหัด    จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว โดยทั่วไปแล้วนักดนตรีเครื่องกระทบที่มีประสบการณ์การเล่นเครื่องดนตรีอื่นมาก่อนด้วย จะมีลักษณะท่วงท่าในการบรรเลงที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ต่างจากนักดนตรีเครื่องกระทบที่ฝึกเพียงแค่การตีกลองมาเพียงอย่างเดียว อาจมีลักษณะการเคลื่อนไหวที่แข็งและไม่เป็นธรรมชาติ จึงมีวิธีการเริ่มต้นสำหรับการฝึกการบรรเลงสี่ไม้ที่แตกต่างกัน กล่าวคือ การใช้แบบฝึกหัดจำกัดบทเพลง หรือการใช้     บทเพลงจำกัดแบบฝึกหัด

อาจารย์อนุสรณ์ ปราบหนองบั่ว ให้ข้อมูลว่า เมื่อนักเรียน นักศึกษา มีพื้นฐานการปฏิบัติสองไม้จนเริ่มชำนาญ จะเริ่มฝึกการปฏิบัติสี่ไม้จากเทคนิคการลงไม้พร้อมกัน การแยกไม้อิสระ และการสลับไม้และสลับมือ ตามลำดับ โดยทุก ๆ รูปแบบการปฏิบัติจะเริ่มฝึกโดยใช้คู่ 5 เนื่องจากเป็นขั้นคู่ที่ธรรมชาติที่สุดสำหรับการเริ่มต้นจับสี่ไม้ เมื่อนักเรียน/นักศึกษา สามารถลงไม้พร้อมกัน แยกวิธีหมุนข้อมือในแต่ละไม้ได้ ก็จะพัฒนาไปสู่บทเพลงพื้นฐาน อาทิ Gitano, Rain Dance, Yellow After The Rain, Charade, Mexican Dances       เป็นต้น ซึ่งบทเพลงเหล่านี้จะมีรูปแบบการปฏิบัติเทคนิคพื้นฐานที่ครอบคลุมเพียง 3 เรื่อง โดยยังปราศจากการลงไม้สองครั้งแบบต่อเนื่องบนมือข้างเดียว จากการเรียนรู้ผ่านบทเพลงตัวอย่างที่ถูกกำหนดให้นักเรียน/นักศึกษา จะพบว่านักเรียน/นักศึกษา จะมีประสบการณ์อ่านโน้ตประกอบการบรรเลงสี่ไม้ บนกุญแจ ซอล หากแต่บทประพันธ์และบทเพลงที่ใช้สำหรับการเรียน การสอน บนเครื่องกระทบประเภทคีย์บอร์ด จะต้องครอบคลุมช่วงเสียงจนกระทั่งการใช้กุญแจ ฟา อาจารย์อนุสรณ์ จึงกำหนดให้เรียนบทประพันธ์ของ บาค   (J.S. Bach) หลังจากการฝึกบทเพลงพื้นฐานสี่ไม้ จากนั้นรูปแบบการลงไม้สองครั้งต่อเนื่องบนมือข้างเดียว จะมาจากบทเพลงที่เลือกอิสระ และถูกพบวิธีการปฏิบัติดังกล่าว จึงจะออกแบบแบบฝึกหัดให้นักเรียน/นักศึกษารายบุคคล เพื่อพัฒนารูปแบบการปฏิบัติที่เกิดขึ้นเฉพาะบทเพลง

อาจารย์ไกรสิทธิ์ สุวรรณเหล่า ให้ข้อมูลว่า จะเริ่มปูพื้นฐานการปฏิบัติสี่ไม้โดยเริ่มต้นการการลงไม้พร้อมกัน ต่อด้วยการแยกไม้อิสระ และการสลับไม้ สลับมือ ตามลำดับ โดยจะเริ่มฝึกจากขยับอวัยวะแต่ละส่วนบริเวณมืออย่างช้ามากก่อน เพื่อให้เข้าใจถึงกายภาพที่ถูกต้องขณะปฏิบัติ จากนั้นจึงพัฒนามาสู่การใช้แบบฝึกหัดและบทเพลง จากหนังสือ Marimba: Technique Through Music โดย Mark Ford ซึ่งข้อดี ของหนังสือเล่มนี้ คือ มีวัตถุประสงค์ ข้อควรระวัง จุดมุ่งหมายของการใช้แบบฝึกหัด ในแต่ละหัวข้อการปฏิบัติที่ชัดเจน นอกจากนั้นยังมีบทประพันธ์ขนาดสั้นในทุกหัวข้อการปฏิบัติ ที่มุ่งเน้นไปยังรูปแบบการปฏิบัติดังกล่าวในแต่ละหัวข้อ ทำให้เป็นการสร้างเป้าหมายในการใช้แบบฝึกหัดและบทประพันธ์ให้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี นอกจากบทประพันธ์จากหนังสือเล่มดังกล่าวแล้ว อาจารย์เปิดโอกาสให้นักเรียน/นักศึกษา สามารถเลือกบทเพลงอิสระมาใช้ศึกษาได้เช่นเดียวกัน โดยหัวข้อการลงไม้สองครั้งบนมือข้างเดียว จะถูกนำมาใช้เป็นบทเรียนหลังจากผ่านการฝึก รูปแบบการลงไม้พร้อมกัน การแยกไม้อิสระ และการสลับไม้ สลับมือ จนชำนาญระดับนึงแล้ว

อาจารย์ศรสวรรค์ หอมวิเศษวงศา ให้ข้อมูลว่า โดยปกติจะใช้เพลงพื้นฐานสำหรับการฝึกการบรรเลงสี่ไม้ผ่านบทเพลง อาทิ เพลง Katamiya โดย Emmanuel Sejourne พัฒนาต่อเนื่องไปยังบทเพลง Mexican Dances ท่อน 1 - 2 และ Two Movement for Marimba โดย Toshimitsu Tanaka ตามลำดับ โดยในระหว่างที่ศึกษาอยู่ในแต่ละบทเพลง จะให้นักเรียนได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ด้วยการออกแบบแบบฝึกหัด โดยหยิบเทคนิคการปฏิบัตินำมาออกแบบเฉพาะรายบุคคล โดยอาจารย์เป็นผู้ให้คำปรึกษา เพื่อสร้างให้บรรยากาศของชั้นเรียนเกิดการมีส่วนรวมระหว่างนักเรียนและอาจารย์ โดยบทเพลงที่ถูกระบุนั้น เป็นเพียงตัวอย่างลำดับของการฝึก แต่ในการเรียนการสอน นักเรียนสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกเรียนในบทประพันธ์ที่เขาเหล่านั้นสนใจได้ ตามอิสระและความเหมาะสมกับการพัฒนา

ตารางที่ 3 ตารางแสดงข้อเสนอข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับแบบฝึกหัดและบทประพันธ์สร้างสรรค์ของผู้เขียน

Screenshot 2567-08-21 at 13.35.47
Screenshot 2567-08-21 at 13.34.25
Screenshot 2567-08-21 at 13.35.24
Screenshot 2567-08-21 at 13.36.18

สรุปผลการศึกษา

จากการเรียนรู้ผ่านกระบวนการ การสร้างกิจกรรมเสวนา และกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ ซึ่งเป็นกิจกรรมทางดนตรีที่เกิดขึ้นนอกห้องเรียน กระบวนการเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนตระหนักถึงทักษะของนักดนตรีในปัจจุบัน นอกจากทักษะการปฏิบัติดนตรีที่ดีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ หากจะต้องมีทักษะอื่น ๆ อาทิ ทักษะด้านการสื่อสาร การจัดการ การเรียบเรียง และการถ่ายทอด ซึ่งทักษะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับนักดนตรีในยุคปัจจุบัน

การสร้างแบบฝึกหัดและบทประพันธ์สร้างสรรค์ บนแหล่งการเรียนรู้ออนไลน์รูปแบบเว็บไซต์ สำหรับนักดนตรีเครื่องกระทบระดับกลาง (Intermediate) ในหัวข้อการแนวทางการบรรเลงสี่ไม้ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน/นักศึกษา ผ่านการศึกษาตำราต้นแบบจากหนังสือ Method of Movement for Marimba และ Marimba: Technique Through Music ทำให้ผู้เขียนสามารถอธิบายลำดับขั้นตอน ระยะเวลาในการฝึกซ้อม ตลอดจนข้อควรระวังในการฝึกทักษะรูปแบบการบรรเลงสี่ไม้ได้อย่างเป็นระบบ และสามารถถ่ายทอดความรู้ในการบรรเลงผ่านการสาธิตในวิดีโอ ทั้งการบรรยายรูปแบบการปฏิบัติ รวมไปถึงการสาธิตบทประพันธ์

จากข้อมูลการสัมภาษณ์ผ่านผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นทั้งอาจารย์ และนักดนตรีเครื่องกระทบมืออาชีพ พบว่าแบบฝึกหัดที่ถูกออกแบบขึ้นในแต่ละหัวข้อการปฏิบัติ มีลำดับขั้นตอนการฝึกที่ชัดเจน ครอบคลุมในแต่ละหัวข้อการปฏิบัติ สามารถนำไปใช้เป็นแบบประกอบการเรียนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ไม่พบตำราสำหรับเครื่องกระทบประเภทคีย์บอร์ดในรูปแบบภาษาไทย งานชิ้นนี้จึงมีประโยชน์อย่างมากในแง่ของการศึกษาสำหรับนักเรียนไทย ที่อาจมีปัญหาเรื่องภาษา การทำความเข้าใจในตำราต่างประเทศ อาจไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาสาระได้ทั้งหมด แบบฝึกหัดชุดนี้จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการทำความเข้าใจ โดยเฉพาะกับการเรียนการสอน และการฝึกซ้อมโดยไม่มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ซึ่งการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพอาจไม่จำเป็นต้องฝึกครบทุกเบอร์ตามจำนวนที่ผู้เขียนได้ออกแบบขึ้น หากแต่เป็นการหยิบบางแบบฝึกหัดมาใช้เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่ประสบระหว่างฝึกซ้อมก็ย่อมได้ นอกจากนั้นบทประพันธ์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นยังเป็นเสมือนปลายทางในการตรวจสอบสิ่งที่เรียนรู้ผ่านแบบฝึกหัด ว่าผู้ฝึกสามารถนำไปใช้งานจริงผ่านบทการบรรเลงบทเพลงได้หรือไม่

สิ่งที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคตจากคำแนะนำ คือ สามารถรวบรวมชุดแบบฝึกหัดทั้งหมด รวมไปถึงบทประพันธ์ในรูปแบบหนังสือได้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งหนทางสำหรับการใช้งาน นอกเหนือจากการใช้งานผ่านเว็บไซต์ที่ผู้เขียนได้ออกแบบขึ้น หนังสือจะสะดวกสำหรับการจดบันทึกการซ้อม รวมไปถึงการเรียน การสอน ผ่านระบบห้องเรียน นอกจากนั้นในส่วนของคำอธิบายทั้งหมดที่เป็นภาษาไทย ยังสามารถนำไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เพื่อต่อยอดการกระจายความรู้ไปสู่ระดับสากลได้อีกเช่นกัน

[1] Link YouTube. https://www.youtube.com/@Ohhnadis.

[2] Facebook. https://web.facebook.com/Paopunconcert/about.

บรรณานุกรม

Amnatham, Paopun. Paopun Concert. Facebook page. Accessed March 2, 2024.         https://web.facebook.com/Paopunconcert.

Ford, Mark. Youtube video. Accessed March 15, 2022.

https://www.youtube.com/user/untperc

Stevens, Leigh Howard. Method of Movement with 590 exercises. (5th ed.). Leigh Howard      Steven Publications.

การสื่อสารบุคคล

เกษม ทิพยเมธากุล. วันที่ 2 มีนาคม, 2567.

ไกรสิทธิ์ สุวรรณเหล่า. วันที่ 2 มีนาคม, 2567.

ธนสิทธิ์ ศิริพานิชวัฒนา. วันที่ 3 มีนาคม, 2567.

เผ่าพันธ์ อำนาจธรรม. วันที่ 2 มีนาคม, 2567.

พนัส ต้องการพานิช. วันที่ 3 มีนาคม, 2567.

วรรณภา ญาณวุฒิ. วันที่ 3 มีนาคม, 2567.

ศรสวรรค์ หอมวิเศษวงศา. วันที่ 2 มีนาคม, 2567.

อนุสรณ์ ปราบหนองบั่ว. วันที่ 3 มีนาคม, 2567.